ศ.นพ.ผดุงศักดิ์:
ภาวะเส้นประสาทตาอุดตันมักเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป จนหลายคนอาจไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติและกว่าจะรู้ตัวอาการก็เข้าขั้นวิกฤตไปแล้ว ผมจึงขอชี้แจงแบ่งเป็นอาการระยะเริ่มต้นและอาการที่เข้าขั้นรุนแรงแล้วนะครับ เพื่อให้ทุกคนสามารถเห็นภาพได้โดยง่าย ดังนี้:
จากสถิติแสดงให้เห็นว่า ประชากรกว่า 20 ล้านคนในประเทศไทยของเราล้วนประสบปัญหาทางสายตา และมีเพียง 14% เท่านั้นที่สามารถจ่ายเงินเพื่อเข้ารับการรักษาจนหายดีได้
ผู้สื่อข่าว: หากไม่อยากเสี่ยงเส้นประสาทตาอุดตัน มีอาการอะไรที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษไหม?
อาการระยะเริ่มต้น : เส้นประสาทตาอุดตันแล้วประมาณ 36%
- ปวดตา ระคายเคืองตา
- ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
- ตาแห้ง แสบตาเป็นประจำ
- แสบตา ตาอักเสบ
- ความดันลูกตาผิดปกติ
- การมองเห็นในเวลากลางคืนแย่ลง
อาการระยะรุนแรง : เส้นประสาทตาอุดตันแล้วประมาณ 79%
- สายตายาว สายตาสั้น สายตาเอียง
- ต้อหิน ต้อกระจก
- ต้อเนื้อ ต้อลม
- วุ้นตาเสื่อม
- จอประสาทตาเสื่อม
- กระจกตาเสื่อม
- เบาหวานขึ้นตา
- ติดเชื้อในดวงตา
- ตาบอดสี
ผมขอยกตัวอย่างหนึ่งในคนไข้ของผม คุณศิริวรรณ อายุ 36 ปี ใครจะไปคิดล่ะครับว่าเธออายุเท่านี้ แต่ป่วยเป็นโรคต้อหินระยะรุนแรง เพราะเธอเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้นกับดวงตามากมาย ก่อนหน้านี้เธอเป็นวิศวกรประจำอยู่ไซต์งานก่อสร้างต้องเผชิญกับฝุ่นควัน แสงแดด และดินทรายทุกวัน เธอไม่เคยสวมแว่นตากันแดดหรือหาอะไรปกป้องดวงตาเลย จนทำให้การมองเห็นของเธอเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว
ขั้นแรกคุณศิริวรรณมีอาการตามัวมองไม่ชัด จากนั้นตาก็เริ่มสู้แสงไม่ได้และมองเห็นภาพซ้อน มีอยู่วันหนึ่งเธอลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ภาพที่เห็นมืดสนิทไปเลย เธอตกใจมากจนต้องให้สามีรีบพาไปโรงพยาบาลทันที หมอวินิจฉัยว่าคุณศิริวรรณป่วยด้วยโรคต้อหินระยะที่ 3 หรือสามารถมองเห็นได้เพียง 28% เท่านั้น ดวงตาของเธอจึงแทบไม่ต่างจากคนตาบอดแล้ว ทั้งที่เธออายุแค่ 30 กว่าปีเท่านั้น!
ผมจึงติดต่อขอให้คุณศิริวรรณร่วมเป็นอาสาสมัครในการวิจัยสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ของผมด้วย ทำให้เธอมีโอกาสได้ใช้สูตรนี้ในการฟื้นฟูดวงตา ดูผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเธอทานสูตรนี้ไปเพียง 4 สัปดาห์สิครับ เธอบอกว่ามองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวชัดเจนมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนแสบตาและน้ำตาไหลอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้แทบไม่มีอาการเหล่านั้นอีกแล้ว อาการของเธอดีขึ้นมากจนแทบกลับมามองเห็นเหมือนปกติแล้ว
ผมจึงอยากให้ทุกคนลองสังเกตตัวเองและตรวจเช็กสุขภาพดวงตาอยู่เสมอครับ
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือมีอาการน้อยแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้ามีการมองมัว มองเบลอ หรือแสบตาอยู่บ่อย ๆ
นั่นหมายความว่าระบบเส้นประสาทตาของคุณเริ่มส่งสัญญาณบางอย่างแล้ว
ซึ่งอาจอุดตันและอาจนำไปสู่ภาวะตาบอดได้ในอนาคต
ดังนั้นต้องรีบหาวิธีดูแลโดยด่วนครับ!
ผู้สื่อข่าว: ถ้าอย่างนั้นมีวิธีการไหนที่สามารถช่วยผู้ป่วยทุกวัยได้ในราคาไม่แพง?
ใช่วิธีการที่คุณคิดค้นขึ้นไหมครับ?
ศ.นพ.ผดุงศักดิ์:
ฉันได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมเภสัชกรรมเชิงภาพในอนาคตอันใกล้นี้ ปัจจุบันในตลาดประเทศไทยเราได้จดทะเบียนผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อทางการค้า Vistorin หลังจากผลิตภัณฑ์วางตลาดได้ 6 เดือน ผลลัพธ์คือมีคนมากกว่า 50,000 คนที่สามารถถอดแว่นตาและเลิกใช้คอนแทคเลนส์ได้อย่างถาวร ฉันและทีมงานใช้เวลามากกว่า 7 ปีในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ การทดลองทางคลินิกใช้เวลาอีก 4 ปี และเราพบว่าผลิตภัณฑ์นี้มีประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนเนื่องจากส่วนประกอบที่ปราศจากสารเคมี แต่มีเพียงสารสกัดจากพืชและสมุนไพรเท่านั้น และการใช้เทคโนโลยีการสกัดแบบเย็นมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาองค์ประกอบทางชีวเคมีของวิตามินไว้ได้อย่างครบถ้วน